15 ธ.ค. 2553

อาหารต้านโรคความดันโลหิตสูง

โรคความดันโลหิตสูง
ความดันโลหิต คือแรงดันของหัวใจที่สูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อความดันโลหิตสูงมากจนเกินความพอดี
จะส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะหัวใจ ซึ่งความดันโลหิตสูงจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจบีบรัดและขยายตัวขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจโตก่อให้เกิด
อาการหัวใจวายได้

อาการของโรคความดันโลหิตสูง
1. มีความดันโลหิตสูงมากกว่า 140/90
2. หูแว่ว ตาพล่า วิงเวียนศีรษะ คลื่นไสัอาเจียน
3 หัวใจเต้นผิดปกติ
4. หายใจสั้นและถี่ หรือมีอาการปวดศีรษะ

สาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง ได้แก่
1. พันธุกรรม เพศ อายุ
2. การกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ขาดวิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญ
3. เกิดจากโรคบางชนิดที่เกี่ยวข้องกัน เช่น โรคไต โรคเบาหวานคอเลสเตอรอลสูง การตั้งครรภ์ หรือยาบางชนิด
4. การใช้ชีวิต ประจำวัน เช่น กินเกลือมาก ดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน กินอาหารที่มีไขมันสูงภาวะความเครียด 

โภชนาการและการบำบัดโรคความดันโลหิตสูงแบบธรรมชาติ
มีอาหารตามธรรมชาติหลายชนิด ที่ช่วยบำบัดความดันโลหิตสูงได้ ได้แก่
* กล้วย  ส้ม มะม่วง มะละกอ ถั่วเหลือง มีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความดันโลหิต
* เครื่องเทศสมุนไพร อาทิ กระเทียม หัวหอม ขิง ขึ้นฉ่าย ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตลดลง
* ควรกินผักใบเขียว ธัญพืช นมไขมันต่ำ แอพริคอต  ซึ่งอุดมไปด้วยแร่แมกนีเซียม ซึ่งสถาบันโรคหัวใจแห่งเนเธอรแลนด์พบว่า ช่วยลดความดันโลหิตได้ดี
* เพิ่มการกินผักผลไม้สด ถั่ว งา และแป้งที่ไม่ผ่านการขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือให้มากขึ้น
* การกินผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เต้าหู้ ซึ่งมีสารเลซิติน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
* กินไขมันที่ดีแทนไขมันสูงจากสัตว์
* ดื่มน้ำเปล่าวันละ 2 ลิตร หืรอสลับกับการดื่มชาเขียว เพื่อลดระดับคอเลสเตอรอล
* การออกกำลังเป็นประจำทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ

ใช้วิตามินเสริมช่วย
* แอล-คาร์นิทีน (L-carnitine) ควรกิน 900 มิลลิกรัม -4 กรัมต่อวันช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง
* แคลเซียม ควรกิน 500-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน ช่วยลดการเกิดความดันโลหิตสูง
* วิตามินบีรวมลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ อันเป็นโรคเกี่ยวเนื่องจากความดันโลหิตงง
* แมกนีเชียม ควรกิน 450 มิลลิกรัมต่อวัน และโพแทสเชียม 50-300 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อช่วยลดภาวะการขาดน้ำและลดความดันโลหิต

**หมายเหตุ**
การกินวิตามินเสริมควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะอาจมีผลข้างเคียงได้

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
* จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ควรกินเกิน 50 มิลลิลิตรต่อวัน 
* เกลือ อาหารเค็ม อาหารที่มีโซเดียมงง เป็นสาเหตุทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น ควรลดการกินเกลือลง
* ลดปริมาณการกินเนื้อสัตว์และอาหารจำพวกแป้ง
* ลดการกินอาหารหวาน อาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอสูง
* หลีกเลี่ยงอาหารพวกตระกูลชะเอม ชะเอมเทศ รากชะเอม  ซึ่งเป็นตัวกักเกลือไว้ในร่างกายทำให้ความดันโลหิตสูง

ข้อแนะนำเกี่ยวกับความดันโลหิตสูง
1.การสูบบุหรี่ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
2.ระวังอย่าให้เครียด เนื่องจากความเครียดทำให้โลหิตสูงขึ้น
3.คนอ้วนเสี่ยงต่อ การเกิดโรคความดันโลหิตสูง ดังนั้นการลดน้ำหนัก  จึงช่วยลดการเกิดโรคความดันโลหิตสูงด้วย

ขอบคุณภาพจาก maneerat.com

23 พ.ย. 2553

อาหารป้องกันผมร่วง

ตามธรรมชาติแล้วคนเราจะมีผมร่วงเฉลี่ยวันละ 50-100 เส้น เพื่อผลัดเส้นผมใหม่ ทำให้บางคนวิตกกังวลว่าเป็นอาการของผมร่วง แท้จริงแล้วเกิดจากความที่คิดไปเอง อาการผมร่วงมากผิดปกติกว่าที่กล่าวมานั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น พันธุกรรมที่มีผมบางและน้อย การติดเชื้อราบนหนังศีรษะ เป็นโรค แพ้ยา แพ้สารเคมี เป็นต้น

โภชนาการและการบำบัดผมร่วงแบบธรรมชาติ
* กินอาหารที่อุดมด้วยเสันใยอาหาร ผักผลไม้ที่มัวตามินและแร่ธาตุรวมถึงธัญพืชและถั่วต่างๆ
* กินกรดไขมันที่ดีที่มีอยู่ในน้ำมันมะกอกน้ำมัน เมล็ดดอกทานตะวันกรดไขมันจากปลา เป็นต้น
* เน้นการกินอาหารที่มีโปรตีน กรดอะมิโนให้เพียงพอ ซึ่งพบได้ทั้งผักปลา และเนื้อสัตว์ เพื่อช่วยให้หนังศีรษะผลิตเส้นผมใหม่ขึ้นมาทดแทน
* ไบโอติน ช่วยป้องกันศรีษะล้านและชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมแหล่งอาหารที่สำคัญได้แก่ บริเวอร์ยีสต์ ถั่ว ตับ เครื่องใน ข้าวซ้อมมือ
* กะหล่ำปลี แคนตาลูป ลูกเกด ตับสัตว์ สมองวัว ส้มโอ มีสารไอโนชิโทล (lnositol) ซึ่งเป็นสารคล้ายน้ำตาล และเป็นส่วนประกอบของวิตามินบีรวม ป้องกันผมร่วงและช่วยในการเติบโตของรากผมให้แข็งแรง
* ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อรักษาความสมดุลของฮอร์โมน
* เลือกหวีที่มีถี่ห่างๆ เพื่อลดการขาดร่วงของเส้นผม

วิตามินเสริม
* วิตามินซี ควรกิน 100 มิลลิกรัมต่อวัน ช่วยสร้างคอลลาเจนซึ่งมีประโยชน์ต่อเส้นผม
* ธาตุเหล็ก ควรกิน 50 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อให้เลือดนำออกซิเจนและสารอาหารไปบำรุงรากผมได้ดีขึ้น
* สังกะสี ควรกิน 12-15 มิลลิกรัมต่อวัน สังกะสีมีส่วนประกอบของเอนไซม์หลายชนิด ช่วยสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และทำให้เสันผมติดยึดแน่นกับราก
* ไบโอติน ควรกิน 1,000 ไมโครกรัมต่อวัน สารไบโอตินช่วยชะลอการหลุดร่วงของเสันผม ทำให้รากผมแข็งแรง
*หมายเหตุ* การกินวิตามินเสริมควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะอาจ มี ผลข้างเคียงอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
* หลีกเลี่ยงการดื่มชาที่มีส่วนผสมของสารแทนนิน
* ลดการกินอาหารเค็มจัด เช่น เกลือ
* ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันสูงจากสัตว์
* หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่ใส่ผงชูรส สารกันบูด และอาหารใส่สีแต่ง กลิ่น รส

ข้อแนะนำ
* ห้ามอดอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารเช้า เพื่อให้การทำงานของเซลล์เส้นผมทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
* ความเครียดทำให้ผมร่วงได้ จึงควรผ่อนคลายความเครียดด้วยการออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ
* หากผมร่วงเป็นกระจุก สันนิษฐานได้ว่าอาจเกิดเชื้อราบนหนังศีรษะควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยตรง
* การใช้น้ำยาย้อมผม ดัดผม ยืดผม อาจจะทำให้ผมแพ้สารเคมีนั้นๆจนเกิดผมร่วงได้ ควรหยุดทำผมชั่วระยะหนึ่ง